เครือข่ายพะโต๊ะ – ระนอง รวมพลกว่า 200 คน ล้มการประชุมปฐมนิเทศสัมมนาครั้งที่ 1 ขอยุติโครงการ “แลนด์บริดจ์ ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ที่หอประชุมศาลากลาง จ.ชุมพร
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ต.ค.67 ที่หอประชุมใหญ่ศาลากลางจังหวัดชุมพร กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ได้จัดประชุมปฐมนิเทศสัมมนาครั้งที่ 1 โครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สาย ชุมพร- ระนอง ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน หรือเรียกโดยย่อว่าโครงการแลนด์บริดจ์ ถูกกำหนดบทบาทให้เป็นการเชื่อมประเทศไทยเข้าสู่เส้นทางการเดินเรือระดับโลก โดยเป็นประตูการค้า ศูนย์กลางการขนส่งสินค้า ซึ่งจะมีการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกสองฝั่งทะเล บริเวณแหลมริ่ว ตำบลบางน้ำจืด อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร และท่าเรือน้ำลึกฝั่งอันดามัน ที่บริเวณแหลมอ่าวอ่าง ตำบลราชกรูด อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
โดยมีเส้นทางเชื่อมโยงท่าเรือทั้งสองแห่ง ระยะทางประมาณ 87 กิโลเมตร ได้แก่ ถนนมอเตอร์เวย์ ขนาด 6 ช่องจราจร และทางรถไฟ จำนวน 4 ทาง และมีการเตรียมพื้นที่การทำระบบขนส่งทางท่อไว้สำหรับอนาคต โดยแนวเส้นทางรถไฟ สำหรับรถไฟโดยสาร ได้ทำการออกแบบรายละเอียดในช่วงปี พ.ศ. 2565 ถึง 2567 ซึ่งแนวเส้นทางพิเศษระหว่างเมือง สาย ชุมพร -ระนอง จะเป็นเส้นทางที่อยู่ด้านทิศใต้ของทางรถไฟ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนเข้าพิธี โดยมี นายธนนท์ พรรพีภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุม ได้มีเครือข่ายพะโต๊ะ – ระนอง รวมกว่า 200 คน นำโดย นายสมโชค จุงจาตุรันต์ และ นางทม สินสุวรรณ ได้เข้าไปในหอประชุมยืนชูป้ายเขียนข้อความคัดค้านโครงการก่อสร้างแลนด์บริดจ์ ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ และพากันไปรวมตัวอยู่บริเวณด้านหน้าเวทีสัมมนา ท่ามกลางหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น กลุ่มองค์กรเอกชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมฟังการสัมมนาในครั้งนี้ประมณ 100 คน ที่มึนงงกับเหตุการณ์
โดยกลุ่มเครือข่ายพะโต๊ะ – ระนอง ได้ยื่นหนังสือต่อ นายธนนท์ พรรพีภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายกีฑา เดชพิน ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชุมพร และ นายสุพัฒน์ ชุ่มมุณีรัตน์ ผู้จัดการโครงการ กรมทางหลวง เพื่อเรียนถึง นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ดังนี้
1. ขอให้รัฐบาลยุติแผนการดำเนินโครงการแลนด์บริดจ์ทั้งหมด และทบทวนนโยบายการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ที่จะต้องคำนึงถึงฐานศักยภาพความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรในพื้นที่และยืนอยู่บนผลประโยชน์ของคนภาคใต้ เป็นที่ตั้ง ตามหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่ใช่แค่การมุ่งพัฒนาในมิติทางอุตสาหกรรมเท่านั้น
2. ขอให้ยุติเวทีปฐมนิเทศการสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษสาย ระนอง – ชุมพร ที่กำลังจัดขึ้น รวมถึงยุติกระบวนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของโครงการย่อยภายใต้แผนโครงการแลนด์บริดจ์ทั้งหมด จนกว่าจะมีการจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ หรือ S E A ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เพื่อทบทวนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ภาคใต้อย่างรอบคอบ
3. รัฐบาลและหน่วยงานต้องรับฟังคำทักท้วง ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ต่อการดำเนินโครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง – ชุมพร โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า ด้วยการละเมิดสิทธิชุมชน รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับฐานทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสังคมวัฒนธรรม ของประชาชนในพื้นที่
หลังยื่นหนังสือทางแกนนำเครือข่ายพะโต๊ะ – ระนอง ขอให้ยุติการดำเนินการจัดประชุมสัมมนาเพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบธรรม และไม่ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย จนผู้เกี่ยวข้องต้องเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจอยู่นาน แต่ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ต้องยอมทำเป็นบันทึกขอตกลงหรือ M O U เป็นลายลักษณ์อักษร ว่าการประชุมในครั้งนี้ ไม่นับเป็นการประชุมปฐมนิเทศน์โครงการ โดยมีข้อความเขียนด้วยลายมือดังนี้
“ บันทึกความเข้าใจ การดำเนินการประชุมในวันที่ 22 ตุลาคม 2567 โดยบริษัทที่ปรึกษาและกรมทางหลวง ไม่นับเป็นการประชุมปฐมนิเทศน์โครงการ เนื่องจากมีการดำเนินการสำรวจ และปักหมุดที่ดินของโครงการก่อนการประชุมในวันนี้ โดยจะถอนหมุดที่ดินในเดือนพฤศจิกายน 2567 วันนี้จึงถือว่าเป็นการประชุมเสนอข้อมูลรายละเอียดเบื้องต้น เนื่องจากมีกลุ่มประชาชนอยู่ในห้องประชุม ” โดยในท้ายของหนังสือ ลงชื่อ นายธนนท์ พรรพีภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และนายสุพัฒน์ ชุ่มมุณีรัตน์ ผู้จัดการโครงการ กรมทางหลวง
หลังจากลงลายมือชื่อและอ่านทำความเข้าใจกันทั้ง 2 ฝ่าย เครือข่ายพะโต๊ะ – ระนอง ต่างพากันแสดงความยินดี โดยส่วนใหญ่ได้พากันเดินทางกลับภูมิลำเนา แต่มีบางคนยังร่วมรับฟังการประชุมสัมมนาอยู่ภายในห้อง จนกระทั้งจบการประชุมในครั้งนี้.
