ข่าวเด่น ฐานชุมพร

ยิงตัวตายหนีคดีข่มขืนลูกเลี้ยงวัย13ปีนักเรียนม.1ตั้งท้อง4เดือน

https://youtu.be/pkZvz7_EOWI

เจ้าของสวนทุเรียนยิงตัวตายหนีความผิดหลังถูกแจ้งความข่มขืนลูกเลี้ยงวัย 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 จนตั้งครรภ์ 4 เดือน พร้อมเขียนจดหมายสั่งลาบอกให้ญาติส่งเสียดูแลทายาทในท้องด้วย



สตอรี่ทราเวลกรุ๊ป (กดอ่านรายละเอียด)

สตอรี่ทราเวลกรุ๊ป (กดอ่านรายละเอียด)

เหตุพ่อเลี้ยงเจ้าของสวนทุเรียนจ่อยิงขมับฆ่าตัวตายหนีความผิดหลังครูเห็นลูกศิษย์นักเรียนหญิงวัย 13 ปี ชั้น ม.1 มีอาการแพ้ท้องจึงแจ้งผู้ปกครองให้ทราบเรื่องเมื่อถูกคาดคั้นจึงทราบความจริงว่าถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนจนตั้งท้อง 4 เดือน จึงร้องเรียนไปยังมูลนิธิปวีณาพาเข้าแจ้งความดำเนินคดี ทำให้เกิดความเครียดฆ่าตัวตายพร้อมเขียนจดหมายสั่งลาบอกให้ญาติช่วยส่งเสียดูแลทายาทในท้องด้วยหากยังไม่ตาย

โดยเหตุดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 26 ก.ย.62  ร.ต.อ.อารัทธ์ รักษาวงศ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.บ้านวิสัยเหนือ ได้รับแจ้งพบศพคนถูกยิงที่บริเวณสวนทุเรียนหลังบ้านเลขที่ 8/1 หมู่ 8 ตำบลวิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.วิทยา จันทร์นุ้ย รอง ผกก.(สอบสวน) กำลังชุดสายสืบสายตรวจ แพทย์เวรโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพร

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ติดกับถนนลาดยางสายวิสัยเหนือ-บ้านชันโต๊ะ บริเวณหลังบ้านปลูกเป็นสวนทุเรียนทะวายหรือทุเรียนนอกฤดูกาลจำนวนมากบนเนื้อที่เกือบ 10 ไร่ และผลผลิตที่ใกล้จะเก็บขายได้แล้วรวมมูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท  พบศพทราบชื่อคือนายพงษ์ศักดิ์ รัตนชัย อายุ 46 ปี เจ้าของบ้านและสวนทุเรียนดังกล่าวถูกยิงที่ขมับขวากระสุนตุงที่ขมับซ้าย 1 นัด สภาพนอนคว่ำหน้านุ่งกางเกงวอร์มสีดำ สวมรองเท้าแตะ ใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำคลุมทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีน้ำตาล ในกระเป๋ามีขวดน้ำดื่มแล้ว 1 ขวด ในมือขวากำอายุปืนสั้นแม็กนั่มแบบลูกโม่ขนาด.22 นอนแข็งทื่อมีแมลงวันและหนอนไต่ตอมยั้วเยี้ย ตายมาแล้ว 2 วัน ศพอยู่ในพงหญ้าโคนต้นกล้วยริมสวนระหว่างเขตแดนติดต่อกับสวนของน้องชาย 

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาวุธปืนในลูกโม่รังเพลิงมีกระสุนคาอยู่จำนวน 7 นัด เป็นปลอกที่ยิงไปแล้ว 3 นัด และยังไม่ได้ยิงอีก 4 นัด ในกระเป๋าคาดเอวตัวมีเงินอยู่จำนวนหนึ่ง ซองยาเส้น ใบจาก และใบกระท่อมอีกหลายใบ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยญาติพี่น้องไม่ติดใจในสาเหตุการตาย เจ้าหน้าที่จึงได้นำศพส่งไปผ่าชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล ก่อนจะมอบศพให้ญาติดำเนินการตามประเพณีต่อไป

จากการสอบสวน นายณัฐพงษ์ รัตนชัย อายุ 32 ปี น้องชายผู้ตายซึ่งมีบ้านและสวนทุเรียนอยู่ติดกันให้การว่าก่อนพบศพ 2 วัน ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นแต่ไม่ได้เอะใจเนื่องจากเข้าใจว่าพี่ชายหรือชาวสวนใกล้เคียงจุดประทัดหรือยิงปืนไล่กระรอกและสัตว์ที่มากัดกินลูกทุเรียนซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว โดยนายพงษ์ศักดิ์ผู้ตายเป็นคนไม่ดื่มเหล้าทำแต่งานไม่ออกเที่ยวเตร่และไม่มีหนี้สิน ปัจจุบันอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียวเนื่องจากภรรยาซึงเป็นแม่หม้ายมีลูกติดได้เลิกราหนีออกไปจากบ้านได้ประมาณ 7 วันที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัญหาส่วนตัวภายในครอบครัว จนกระทั่งพี่ชายตนหายหน้าไปเมื่อคืนที่ผ่านตนไปพบจดหมายที่เขียนไว้ด้านหลังกระดาษปฏิทินจีนจำนวน 4 แผ่น วางไว้ที่บนเตียงนอนของพ่อที่มีอายุมากแล้วซึ่งนอนอยู่บ้านเดียวกับตน จดหมายลักษณะเขียนเหมือนสั่งเสียลาตาย ช่วงเช้าตนจึงออกตามหาในสวนทุเรียนจนมาพบกลายเป็นศพยิงตัวตายดังกล่าวจึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ พร้อมกับมอบจดหมายดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน

โดยในจดหมายทั้ง 4 แผ่นเขียนลงวันที่ 22 ก.ย.62 ที่ผ่านมา มีใจความสรุปเกี่ยวกับปัญหากรณีที่ภรรยาและญาติๆของภรรยาได้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.บ้านวิสัยเหนือ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงซึ่งเป็นลูกเลี้ยงอายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 จนตั้งท้องได้ 4-5 เดือน หลังจากแจ้งความภรรยาได้พาลูกเลี้ยงหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น และในจดหมายยังได้เขียนบอกให้ญาติพี่น้องของผู้ตายเองช่วยส่งเสียดูแลลูกที่ตั้งครรภ์อยู่ในท้องด้วยหากเด็กในท้องยังมีชีวิตอยู่  ส่วนผลผลิตทุเรียนที่ใกล้จะเก็บขายได้แล้วมูลค่านับล้านบาทมอบให้น้องชายเป็นผู้ดูแล  นอกจากั้นยังได้เขียนบอกเกี่ยวกับสุขภาพของตนเองที่มักจะมีอาการหอบแน่นหน้าออกหายใจไม่ค่อยออกจึงต้องตัดสินใจฆ่าตัวตายดังกล่าว

ทรัพย์สมบูรณ์ ชุมพร (กดชมสินค้า)

ทรัพย์สมบูรณ์ ชุมพร(กดชมสินค้า)

จากการสอบสวนเบื้องต้นสาเหตุที่นายพงษ์ศักดิ์คิดสั้นฆ่าตัวตายมาจากปัญหากรณีที่ เด็กหญิงเอ(นามสมมุติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของผู้ตาย ขณะไปเรียนหนังสืออยู่ในชั้นเรียนครูผู้สอนได้สังเกตเห็นเด็กหญิงเอมีอาการคลื่นไส้ลักษณะเหมือนคนแพ้ท้องจึงสอบถามและแจ้งให้ผู้เป็นแม่และญาติๆได้ทราบเรื่องจนถูกคาดคั้นทำให้รู้ความจริงว่าเด็กหญิงเอถูกนายพงษ์ศักดิ์พ่อเลี้ยงข่มขืนมาเป็นเวลานานแล้วจนตั้งท้อง 4-5 เดือน เมื่อทราบความจริงจึงร้องเรียนมูลนิธิปวีณาหงส์สกุลเพื่อเด็กและสตรี ให้ช่วยเหลือและพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.วิทยา จันทร์นุ้ย รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.บ้านวิสัยเหนือ เปิดเผยว่าคดีดังกล่าวเพิ่งได้รับแจ้งความเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งยังอยู่ระหว่างสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐานและรอผลการตรวจดีเอ็นเอกับหลักฐานทางนิติเวชที่ชัดเจน เพื่อออกหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหาแต่นายพงษ์ศักดิ์ ก็มาคิดสั้นชิงฆ่าตัวตายไปเลยก่อน.