ข่าวเด่น ฐานชุมพร

เอาเงินพวกเราคืนมา

“เอาเงินพวกเราคืนมา” ชาวบ้านขอถอนไปรักษาแม่ จากธนาคารหมู่บ้านหนองส้มประธานกลุ่มบอกไม่มีเงิน อ้างสมาชิกกู้ไปไม่จ่ายตั้งต้น-ดอก เผยโดนเบี้ยว 50 ราย ยอดเกือบล้าน

ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำสะสมเงินออมเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น ฝากธนาคารหมู่บ้าน ได้รับความเดือนร้อนประมาณ 50 ราย ยอดเสียหายเฉียด 1 ล้านบาท หลังจากขอถอนแต่กลับถูกปฏิเสธ โดยประธานกลุ่มธนาคารหมู่บ้านอ้างว่าสมาชิกที่กู้ไปแล้วไม่ส่งทั้งต้นทั้งดอก จึงไม่มีเงินคืนแก่สมาชิก บางรายฝากเงินเก็บสะสมไว้หลายปีไม่เคยถอน แต่พอจะถอนบอกไม่มีเงินสุดช้ำใจ ทั้งที่เป็นเงินของตัวเองแต่คนอื่นเอาไปใช้อย่างสุขสบาย
เหตุการณ์ดังกล่าวเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 25 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.นิตยา เพิ่มปัญญา หรือปังปอน อายุ 33 ปี พร้อมด้วย นางยุพิน แสงเพชรดำ อายุ 65 ปี ทั้งสองบ้านอยู่หมู่ 2 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร และเพื่อนบ้านกลุ่มธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริ บ้านหนองส้ม นำเอกสารบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดีและบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานของสภ.เมืองชุมพร สมุดธนาคารหมู่บ้านและรายชื่อบางส่วนของสมาชิกกลุ่มที่ได้รับความเสียหายเบื้องต้นพบว่าเป็นเงินเกือบ 1 ล้านบาท
น.ส.นิตยา หรือปังปอน เล่าว่าธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริ บ้านหนองส้ม เปิดทำการตั้งแต่ปี 2544  เริ่มต้นแม่ตนได้เปิดบัญชีเงินฝาก ให้เมื่อปี 2549 เพื่อฝากเงินออมไว้ใช้ในอนาคต ฝากมาเรื่อยๆผ่านมาหลายปี จนกระทั่งเมื่อต้นปี 2568 ทางครอบครัวมีปัญหาด้านสุขภาพ ต้องการถอนเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเอามารักษาแม่ตามหมอนัดผ่าตัดหัวเข่าทั้งสองข้างเพราะเดินไม่ค่อยได้  ดังนั้นทุกวันที่ 11 ของเดือน จึงขอเบิกเงินกับประธานกลุ่มธนาคารหมู่บ้านฯ ได้คำตอบมาว่า เงินที่ปล่อยกู้กับสมาชิก บรรดาสมาชิกที่กู้ไปไม่ส่งทั้งต้นและดอก จึงไม่มีเงินให้กับตนเอง และสมาชิกทุกคนที่ต้องการถอนเงิน ได้รับคำตอบเดิมๆซ้ำๆแบบเดียวกันทุกเดือน แต่บางเดือนก็ได้เงินบ้างแต่เป็นเงินเล็กน้อย เหมือนกับขอเงินตัวเองคืนเป็นขอทาน ทั้งที่เป็นเงินของเราเอง

น.ส.นิตยา กล่าวต่อว่าต<span;>นมีความเชื่อมั่นมาตั้งแต่เมื่อตอนก่อตั้งธนาคารหมู่บ้านเมื่อปี 2544 เพราะเป็นโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชการที่ 9 ซึ่งตนคิดว่ามีความมั่นคง เราเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีจึงรวบรวมเอาเงินไปฝากกัน โดยส่วนตัวตนเองฝากอย่างเดียวไม่เคยถอนเลย เพราะความไว้ใจจนปัจจุบันมีเงินฝาก 57,000 บาท (ห้าหมื่นเจ็ดพันบาท) รวมสมาชิกประมาณ 40-50 คน มีประธานและคณะกรรมการรวม 4-5 คน ค่าความเสียหายราวๆเฉียด 1 ล้านบาท สำหรับสมาชิกที่ถอนเงินไม่ได้
“หลังจากไม่สามารถถอนเงินออกมาได้จึงได้รับความเดือดร้อนเกิดความเสียหาย สมาชิกจึงรวมตัวกันลงลายชื่อและเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองชุมพร เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผานมา ผ่านไป 2-3 เดือน ไม่มีความคืบหน้าเรื่องเงียบ ทางสมาชิกที่ได้รับผลกระทบเกิดร้อนใจ จึงติดต่อกลับไปทวงถามความคืบหน้า จึงได้มีการนัดทั้งผู้เสียหายและประธานกลุ่มธนาคารหมู่บ้านฯทั้งสองฝ่ายเจรจากัน”
“โดยทางฝ่ายสมาชิกเจ้าของเงินต้องการถอนเงินทั้งหมด แต่ทางอีกฝ่ายบอกว่าไม่มีเงินให้ทุกคนทั้งหมด เพราะสมาชิกที่กู้ไปไม่ส่งต้นและดอกจึงไม่มีเงินให้ถอนออก สรุปว่าไกล่เกลี่ยไม่ลงตัวเพราะทางประธานฯ เสนอมาว่าจะให้เดือนละ 1,000 บาท แต่ให้บ้างไม่ให้บ้าง ตนมองว่าไม่สมเหตุไม่สมผลจึงไม่ขอรับและเซ็นต์ตามจำนวนเงินดังกล่าวที่เสนอมาให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแนะนำให้ไปคุยกันที่อำเภอโดยทำหนังสือยื่นเรื่องไปให้ สุดท้ายต้องขอวอนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องให้ยื่นมือเข้ามาช่วยด้วย เพราะทางธนาคารหมู่บ้านยืนยันคำเดียวว่า “ไม่มี ไม่ให้” แถมยังพูดเปรยๆประมาณว่า “ถ้าเป็นแบบนี้สิ้นปี ไม่ต้องรอปันผล เขาก็ไม่ให้” เราไม่ต้องการเงินปันผลแต่เราต้องการปิดบัญชีเอาเงินทั้งหมดที่เป็นของเราคืนเท่านั้น” น.ส.นิตยา กล่าว

ด้าน นางยุพิน แสงเพชรดำ สมาชิกธนาคารฯ ที่เดือดร้อนบอกว่า ฝากเงินมา 10 กว่าปีแล้ว เคยถอนแค่ครั้งเดียวเป็นเงิน 30,000 บาทเท่านั้น ต่อมาเมื่อ 2 ปีหลัง ทราบว่าธนาคารเริ่มมีปัญหาไม่มีความมั่นคงจึงขอถอนเงินจำนวน 171,000 บาท (หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นหนึ่งพันบาท) แต่ได้รับคำตอบเหมือนเดิม อ้างว่าสมาชิกที่กู้เงินไปไม่ส่งต้นดอกจึงไม่มีเงินให้ถอน โดยจะเบิกถอนได้ทีละ 1,000 บาท แต่ไม่ขอรับเพราะไม่พอใช้ต้องการปิดบัญชีทั้งหมด

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปทางประธานธนาคารหมู่บ้านฯ บ้านหนองส้ม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ว่าเหตุใดไม่มีเงินให้กับเจ้าของเงินที่เป็นสมาชิกธนาคารถอนออก หรือประสบปัญหาการเงินตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้างหรือไม่  โดยประธานธนาคารหมู่บ้านฯ ได้นัดผู้สื่อข่าวเพื่อชี้แจ้ง ในช่วงบ่ายโมงของวันที่ 25 ก.ย.ของวันนี้ ณที่ทำการธนาคารหมู่บ้านฯ ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงชนบทสาย 1001 เชิงสะพานข้ามคลองหนองหยาง หมู่ 2 ตำบลบางลึก อ.เมืองชุมพร แต่เมื่อถึงเวลาประธานธนาคารหมู่บ้านฯไม่ได้มาตามนัดหมาย และติดต่อไม่ได้ โทรศัพท์ก็ไม่รับโทรศัพท์ ขณะที่ น.ส.นิตยา และสมาชิกรายอื่นที่นั่งรอฟังคำตอบ บริเวณด้านหน้าที่ทำการธนาคารต้องรอเก้อไปตามๆกัน.