อันตราย-น่าขยะแขยง ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว จุดพักรถถนนริเวียร่าเมืองไทย เลียบชายฝั่งทะเลชุมพร งบกว่า 20 ล้าน ปล่อยร้างกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์รังแตนจำนวนมาก โดนต่อยกันแล้วหลายราย แถมห้องสุขามีแต่อุจจาระเกรอะกรังเหม็นคลุ้ง
วันที่ 15 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว จุดพักรถถนนริเวียร่าเมืองไทย เลียบชายฝั่งทะเล ช่วงระหว่างบ้านน้ำพุ-บางเบิด หมู่ที่ 5 ตำบลปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านและนักท่องเที่ยว่า ถูกปล่อยทิ้งร้าง แทบไม่ได้ใช้ประโยชน์ใด ๆเลย ซึ่งนักท่องเที่ยวที่แวะเข้าไปใช้บริการดูข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวและนั่งพักผ่อน หลบแดดฝน หลายคนได้ถูกตัวแตนที่ทำรังอยู่จำนวนมากต่อยไชจนเจ็บปวดกันไปแล้วหลายราย แถมห้องน้ำก็สกปรกมีอุจจาระอยู่เต็มคอห่านส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งจนเป็นที่น่าขยะแขยง อย่างมาก
จากการตรวจสอบศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว จุดพักรถถนนเลียบชายฝั่งทะเลชุมพร ดังกล่าวใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า 20 ล้านบาท อยู่บนเนื้องที่ราว 5 ไร่ ซึ่งเป็นถนนโครงข่ายเลียบชายฝั่งทะเลพื้นที่ภาคใต้ตอนบน หรือที่เรียกกันว่า “ถนนริเวียร่าเมืองไทย” เชื่อมโยงตั้งแต่ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ลงสู่จังหวัดทางภาคใต้ ด้านทิศเหนือ และทิศตะวันออกติดกับโครงการพัฒนาส่วนพระองค์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 พื้นที่จำนวน 400 ไร่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวศึกษาดูงานที่สำคัญของจังหวัดชุมพร ส่วนด้านทิศใต้ติดกับแหล่องท่องเที่ยวเนินทราย หรือ “แซนดูนหนึ่งในสยามสันทรายงามที่ชุมพร” และแหล่งท่องเที่ยวสวยงามอีกหลายแห่งในพื้นที่ดังกล่าว
ภาพในบริเวณศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว จุดพักรถถนนเลียบชายฝั่งทะเลชุมพร มีอาคารที่พักผ่อนหย่อนใจนั่งเล่น จำนวน 4 หลัง และอาคารแสดงแผนที่ข้อมูลเส้นทางแหล่งท่องเที่ยว 1 หลัง ปรากฏว่าอาคารทั้งหมดตั้งแต่ต้นเสา คานบน ผนังฝ้าหลังคา มีตัวแตนจำนวนมากทำรังอยู่อย่างหนาแน่นนับร้อยรัง นอกจากนั้นตามกิ่งต้นไม้ที่ปลูกอยู่ตามลานจอดรถจำนวนหลายต้นมีตัวแตนเกาะทำรังอยู่จำนวนมากเช่นกัน ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่แวะเข้าไปใช้บริการถูกตัวแตนต่อยไชจนเจ็บปวดวิ่งหนีกระเจิงกันมาแล้วหลายราย
บริเวณดังกล่าวมีอาคารห้องสุขา 1 หลัง แยกเป็นห้องสุขาชาย ห้องสุขาหญิง และห้องสุขาผู้พิการ โดยห้องสุขาชายและผู้พิการถูกปิดล็อค เปิดให้ใช้ร่วมกันเฉพาะห้องสุขาหญิงเท่านั้น ซึ่งมีอยู่จำนวน 4 ห้อง ปรากฎว่าแต่ละห้องมีอุจจาระคาอยู่เต็มคอห่าน เห็นแล้วขยะแขยงมีกลิ่นเหม็นโชยไปทั่ว และยังมีน้ำรั่วไหลเจิ่งนองพื้น
ส่วนบริเวณด้านข้างอาคารห้องสุขามีถังน้ำแสตนเลสขนาดใหญ่ 2 ถัง สำหรับกักเก็บน้ำ โดยติดตั้งปั้มน้ำอัตโนมัติไว้ข้างๆ 1 ตัว ซึ่งปั้มน้ำอัตโนมัติดังกล่าวมีเสียงเครื่องติดทำงานอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
ทางด้านทิศตะวันออกติดกับลานจอดรถมีอาคารหลังใหญ่ 2 หลัง ทั้ง 2 หลัง เป็นอาคารจำหน่ายสินค้าโอทอป และของที่ระลึก และมีอาคารสำนักงาน 1 หลัง ทั้งหมดถูกปิดตายไม่ได้ใช้งานแต่อย่างใด ส่วนทางด้านทิศตะวันตกเป็นอาคารสำนักงานศูนย์บำรุงทางถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทย สังกัดกรมทางหลวงชนบน กระทรวงคมนาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะกำลังสำรวจตรวจสอบตามที่ได้รับการร้องเรียนอยูนั้น ได้มีชายหญิงต่างชาติชาวยุโรปขับบิ๊กไบก์ 2 คัน แวะเข้าไปจอดเพื่อหลบฝนที่กำลังตกปรอย ๆ แต่เมื่อทีมงานผู้สื่อข่าวเห็นก็ได้เข้าไปบอกให้ชาวต่างชาติระวังตัวแตนที่ทำรังอยู่จำนวนมากทั่วบริเวณของศาลาที่พักดังกล่าว ซึ่งปรากฏว่าช่วงที่ทีมงานผู้สื่อข่าวเดินไปชี้รังแตน ได้ถูกแตนบินเข้ามาต่อยที่คอและตามร่างกายหลายจุด ทำเอาต้องวิ่งหนีออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ชาวต่างชาติจะขับรถบิ๊กไบก์ออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว
ต่อมาไม่นานได้มีสองสามีภรรยาขับรถยนต์แวะเข้ามาเพื่อใช้ห้องสุขา หลังจากจอดรถแล้วเดินเข้าไปในห้องสุขาได้ไม่กี่วินาทีก็รีบเดินออกมาที่รถยนต์ด้วยสีหน้าตาที่ดูสะอิดสะเอียนขยะแขยงเต็มทน โดยนายวินัย มิ่งชื่น และภรรยากล่าวว่าขณะที่ตนขับรถผ่านถนนเส้นทางดังกล่าวรู้สึกปวดท้องหนัก จึงจะแวะเข้ามาเพื่อปลดทุกข์ ปรากฎว่าเมื่อเดินเข้าไปในห้องสุขาถึงกับผงะโดยห้องสุขาทุกห้องเต็มไปด้วยอุจจาระมีกลิ่นเหม็น และพื้นเจิ่งนองไปด้วยน้ำ จึงอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยดูแลจุดพักรถและศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวแห่งนี้ด้วย เพราะเสียดายงบประมาณจำนวนมากที่ใช้ในการก่อสร้าง
ผู้สื่อข่าวรานงานว่าสำหรับสถานที่ดังกล่าวเมื่อปลายเดือนกันยายน พ.ศ.2560 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว ซึ่งขณะนั้นถูกปล่อยทิ้งร้าง เป็นที่มั่วสุมเสพยาเสพติด และก๊อกน้ำสแตนเลส บานเกล็ด ประตู หน้าต่าง และทรัพย์สินอื่น ถูกคนร้ายงัดแงะขโมยไปจนเกลี้ยง และเมื่อนำเสนอข่าวออกไปจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทำให้ นายสมัย โชติสกุล รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ในขณะนั้น ต้องรีบลงมาตรวจสอบในพื้นที่ และใช้งบประมาณนับล้านบาทซ่อมบำรุง พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้มีความสวยงาม จากนั้นไม่นานก็ปล่อยทิ้งร้างเหมือนเดิมมาถึงทุกวันนี้ จนชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้ร้องเรียนผู้สื่อข่าวดังกล่าว.