จับชาวเมียนมาตั้งแก๊งโจรกรรมรถ
ข่าวเด่น

จับชาวเมียนมาตั้งแก๊งโจรกรรมรถ

ตำรวจเมืองชุมพรจับ “เล็ก พาเสียว” แก๊งใหญ่ชาวเมียนมา เครือข่ายโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ก่อเหตุโชกโชนตระเวนลักมาแล้วกว่า 20 คัน ส่งขายข้ามชาติ

เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 9 ก.พ.67  พ.ต.ท.จักรกริช ธรรมรักษา รักษาการ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร ร.ต.ท.สุบิน เย็นใส รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร พร้อมกำลังชุดสายสืบควบคุมตัว นายเล็ก อายุ 22 ปี หรือฉายา “เล็กพาเสียว” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันกลุ่มโจรกรรมรถชาวเมียนมา และนางชอ ซู อายุ 22 ปี ชาวเมียนมา ซึ่งเป็นเมียของนายเล็กที่รู้เห็นร่วมกันก่อคดี เป็นผู้ต้องหาที่ต้องการตัวของตำรวจอย่างมาก หลังจากนายเล็กได้ก่อเหตุมาอย่างโชกโชนออกอาละวาดโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในหลายพื้นที่ของจังหวัดชุมพร จนเป็นที่หวาดผวาของชาวบ้านไปทั่ว ตำรวจนำตัวผุ้ต้องหาทั้งสองคนมาสอบสวนขยายผลที่ห้องปฏิบัติการสืบสวน สภ.เมืองชุมพร พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยใช้ยานพาหนะหรือรับของโจร

โดยมี พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.ถิรเดช แข็งแรง รอง ผกก.สภ.สวี รักษาราชการแทน สวญ.สภ.บ้านในหูต อ.หลังสวน และ ร.ต.อ.สมคิด จันนินวงศ์ รอง สส.สภ.สวี ร่วมสอบสวนปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คนด้วย เนื่องจากมีหลักฐานก่อเหตุโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในท้องที่ สภ.สวี โดยตำรวจติดตามยึดของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟมาได้ 2 คัน ส่วนอีกกว่า 20 คัน กลุ่มผู้ต้องหาส่งขายไปยังประเทศเมียนมาหมดแล้ว

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ระหว่างเดือนธันวาคม 2566-มกราคม 2567 ได้มีชาวบ้านในท้องที่ สภ.เมืองชุมพร สภ.สวี และอีกหลายท้องที่ของจังหวัดชุมพร แจ้งความรถจักรยานยนต์หายมากกว่า 10 คัน จึงออกสืบสวนหาข่าวและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดที่รถหาย ได้ปรากฎภาพมีชายวัยรุ่นอายุระหว่าง 20-25 ปี จำนวน 3 คน ออกตระเวนโจรกรรมรถที่จอดอยู่ตามย่านชุมชน ตามหน้าหอพัก และหน้าบ้าน จนกระทั่งทราบที่อยู่ของแก๊งดังกล่าวมี นายเล็กชาวเมียนมา เป็นหัวหน้าแก๊ง ได้เช่าห้องพักอาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลวังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร จึงตามไปจับกุมตัวได้ พร้อมกับนางชอ ซู ซึ่งเป็นเมียของนายเล็กที่ร่วมขบวนการด้วย

จากการสอบสวนนายเล็กชาวเมียมมา ซึ่งพูดภาษาไทยทั้งสำเนียงภาคกลางและภาคใต้ได้อย่างชัดเจน โดยรับสารภาพว่าตนเองเกิดในประเทศไทยที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พ่อแม่เป็นชาวเมียนมาตอนนี้ย้ายไปทำงานอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนตนมาได้เมียเป็นคนไทยอยู่ที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้ประมาณ 4 ปี ช่วงแรก ๆก็ยึดอาชีพรับจ้างตัดปาล์ม ตอนนี้เมียคนไทยได้เลิกกันแล้ว และตนเพิ่งจะได้เมียใหม่ได้เดือนกว่าเป็นชาวเมียนมาด้วยกัน และตนเคยโดนจับกุมคดีเสพยาเสพติดมาแล้วถูกส่งไปบำบัด แต่ก็ยังเลิกไม่ได้ตอนนี้ก็ยังเสพยาบ้าเหมือนเดิม  ส่วนฉายา “เล็กพาเสียว” ที่รู้จักกันในวงการแก๊งโจรกรรมรถชาวเมียนมา เนื่องจากพอตนได้เงินจากการขายรถคันละประมาณ 1 หมื่นถึง 3 หมื่นบาท แล้วแต่สภาพและรุ่นของรถ แต่ถ้าเป็นรถฮอนด้าเวฟจะได้ราคาสูง เพราะเป็นที่ต้องการของฝั่งเมียนมา เมื่อได้เงินมาก็จำพาไปใช้จ่ายเสพยาบ้าและให้ผู้หญิงหลายคนที่พามาร่วมหลับนอนด้วยจนหมด เพื่อนๆจึงตั้งฉายาดังกล่าวให้ว่า “เล็กพาเสียว” 

นายเล็กกล่าวต่อว่าตนมีเพื่อนร่วมแก๊งอีก 2 คน เป็นชาวเมียนมา 1 คน และชาวไทย 1 คน ซึ่งขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ โดยพากันออกตระเวนลักรถตามท้องที่ต่าง ๆ ในหลายท้องที่ ส่วนวิธีการโจรกรรมรถก็จะเรียนรู้มาจากคลิบในยูทูบและเพื่อนในแก๊งช่วยสอนให้ โดยพากันออกตระเวนหารถเป้าหมายในตอนกลางคืนเมื่อเจอแล้วแล้วใช้ผ้าเช็ดตัวคลุมหัวเพื่อปิดบังใบหน้าเพื่อป้องกันกล้องวงจรปิดจับภาพ จากนั้นใช้วิธีหักคอรถที่จอดล็อคคออยู่ตามหอพัก หน้าบ้าน หรือย่านชุมชน แล้วใช้เท้าถีบยันออกมาในที่ปลอดภัยแล้วต่อสายตรงตามที่ได้ศึกษามา พาไปส่งขายให้นายหน้าที่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ริมชายแดนแม่น้ำกระบุรี จ.ระนอง และชายแดนด้าน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร

พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร กล่าวว่ารู้สึกโล่งใจที่สามารถจับกุมแก๊งโจรกรรมรถรายนี้ได้ เนื่องจากระหว่างเดือนธันวาคม 66 -มกราคม 67 นี้ ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แก๊งนี้ก่อเหตุในท้องที่ สภ.เมืองชุมพร ลักรถจักรยานยนต์ไปแล้ว 9 คัน ตามยึดคืนมาได้ 2 คัน นอกนั้นผู้ต้องหาส่งขายไปฝั่งประเทศเมียนมาหมดแล้ว ทราบว่ายังมีอีกหลายท้องที่ในจังหวัดชุมพรที่มีรถหายคาดว่าน่าจะมากกว่า 20 คัน จึงฝากไปถึงประชาชนด้วยการจอดรถให้ระมัดระวังทรัพย์สินของท่าด้วยโดยเฉพาะอย่าได้ลืมเสียบกุญแจคารถได้

ด้าน ร.ต.อ.สมคิด จันนินวงศ์ รอง สว.(สส.)สภ.สวี กล่าวว่าในส่วนของท้องที่สภ.สวี มีการแจ้งรถหาย 2 คัน จากหลักฐานกล้องวงจรปิดและสอบสวนผู้ต้จับแก๊งเมียนมาองหารายนี้ก็รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุลักและได้ส่งไปขายฝั่งพม่าเรียบร้อยแล้ว.