ปลดเจ้าอาวาสวัดดังชุมพร หลักฐานแช็ตตื้อจีบหญิงนักธุรกิจพูดคุยเชิงชู้สาว
เจ้าคณะปกครองอำเภอเมืองชุมพร ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงพร้อมเสนอปลดเจ้าอาวาสวัดประเดิม หลังมีหลักฐานคุยแชท กับผู้หญิงเชิงชู้สาว ยอมรับเป็นความจริง อ้างเครียด เหงา หว่าเหว่ เพราะป่วยไม่มีคนดูแล

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 23 มีนาคม 66 ทางเจ้าคณะปกครองฝ่ายสงฆ์ ประกอบด้วย พระครูศรีธรรมวิเทศ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำชุมพร ในตำแหน่ง เจ้าคณะอำเภอเมืองชุมพร พร้อมด้วย พระครูปลัดศิริโชค สิริธัมโม เจ้าอาวาสวัดปากคลอง ในตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอเมืองชุมพร และ พระมหาสมศักดิ์ กิจฺจสาโร เจ้าอาวาสวัดพิชัยยาราม ในตำแหน่งเจ้าคณะตำบลตากแดด ได้เดินทางมายังวัดประเดิม เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จกรณีที่ทางเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมพูดทักทางผ่านระบบแอพพิเคชั่นไลน์กับผู้หญิง โดยใช้ประโยคคำในสนทนาสื่อไปทางชู้สาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ทางเจ้าคณะปกครองฝ่ายสงฆ์ จะเข้าพบเจ้าอาวาสวัดประเดิม ได้เชิญ นางเยาวดี แดงสนิท ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร และชาวบ้านได้เข้าร่วมประชุมปรึกษาหารือกันเบื้องต้น พร้อมนำเอกสารหลักฐาน การสนทนาระหว่างเจ้าอาวาสวัดประเดิม กับหญิงสาว และ คลิปข่าวซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้สื่อข่าวที่ได้ส่งข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดให้
เนื่องจากก่อนหน้านี้หญิงสาวคนดังกล่าวซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับงานโยธางานรับเหมา ได้นำหลักฐานทั้งหมดมาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว อีกทั้งยังเคยไปแจ้งความและร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร มาแล้ว เรื่องเงียบไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด โดยได้ปริ้นข้อความลงในกระดาษ A4 และเปิดคลิปข่าวมาแสดงและแจกแจงในที่ประชุมได้ทราบ

โดยทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะอย่างยิ่ง แต่ยังไม่ถึงขนาดสื่อไปทางลวนลามหรืออนาจาร ถึงเนื้อตัวของหญิงสาวคนดังกล่าวและมีเพศสัมพันธ์ จากนั้นได้เข้าไปพบเจ้าอาวาสวัดประเดิม ซึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียง ซึ่งทางเจ้าคณะปกครองฝ่ายสงฆ์ ได้บอกกล่าวถึงวัตถุประสงค์พร้อมนำเอกสารและคลิบภาพมาแสดงให้เห็น ถึงพฤติกรรมดังกล่าว
หลังจากที่ทางเจ้าอาวาส ได้เห็นเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ ก็ยอมรับสารภาพโดยสิ้นเชิง พร้อมยินดีรับผิดในการกระทำดังกล่าว และได้อ้างเพียงว่า ตนเองหว้าเหว้ เหงา ป่วยไม่มีคนดูแล จึงได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง
เบื้องต้นทางเจ้าคณะปากครองฝ่ายสงฆ์ ได้ว่ากล่าวและมีข้อสรุปต่อหน้าเจ้าอาวาสและผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน คือจะได้ดำเนินการเสนอเรื่องเพื่อถอดถอนออกจากเจ้าอาวาสวัดประเดิม เนื่องจากมีพฤติกรรมล่อแหลมสุ่มเสี่ยงผิดพระธรรมวินัยและเป็นการทำลายคณะสงฆ์ โดยจะทำหนังสือตามขั้นตอนเสนอให้กับคณะสงฆ์ชุดใหญ่พิจารณาอีกครั้งเพื่อถอดถอนจากเจ้าอาวาส ให้เป็นพระลูกวัด และจะคัดหาพระสงฆ์ที่เพียบพร้อมมาเป็นเจ้าอาวาสแทนต่อไป

ด้าน นางเยาวดี แดงสนิท อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ในฐานะกรรมการวัด เผยหลังทราบข่าวส่วนตัวตอนแรกไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยินมา กระทั้งได้มีโอกาสมาพูดคุยและสอบถามข้อเท็จจริงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏว่าทางเจ้าอาวาสเองก็ยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ซึ่งตนเองก็รู้สึกเสียใจและผิดหวังกับสิ่งที่ทางเจ้าอาวาสกระทำ เพราะที่ผ่านมาตนเองในฐานะคณะกรรมการวัดคนนึงก็พร้อมสนับสนุนและคอยช่วยเหลือกับทางเจ้าอาวาสมาโดยตลอด
“ยอมรับตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนเองในฐานะคนในพื้นที่ ท่านเองป่วยอาพาธมานานกว่า 10 ปี ไม่เคยมีพฤติกรรม ในลักษณะเชิงชู้สาว หรือมีพฤติกรรมที่ผิดกฎระเบียบของทางสงฆ์ และไม่เคยมีเรื่องร้องเรียน ซึ่งตนเองในฐานะผู้นำชุมชน พร้อมที่ยึดตามกฎของสงฆ์ไม่ว่าผลการพิจารณาตามระเบียบสูงจะออกมาอย่างไร”
นางเยาวดี กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองแม้ว่าจะผิดหวัง แต่ก็เข้าใจได้ในมุมหนึ่งหลังจากที่ท่านเองยอมรับผิด ก็คือเหตุการณ์ดังกล่าวท่านไม่เคยมีโอกาสได้เจอกับหญิงรายดังกล่าวและไม่เคยมีการนัดเจอกัน ส่วนเรื่องประเด็นเงินนั้น ท่านเองยอมรับว่าท่านต้องการนำมารักษาตัว ในเชิงการรักษาทางแพทย์แผนโบราณ เพราะบางครั้งท่านเองอยากจะมีการฝึกเดินหรือบำบัด นอกเหนือจากการรักษาทางวิทยาศาสตร์ที่โรงพยาบาล ซึ่งเงินในส่วนนี้ท่านเองจะต้องเป็นคนจ่ายเองซึ่งตนก็เข้าใจในมุมนี้
“สุดท้ายหากทางคณะสงฆ์จะมีคำสั่งปลดท่าน หรือเลื่อนขั้นจากเจ้าอาวาสเป็นพระลูกวัด ชาวบ้านเองก็ยอมรับ ไม่มีใครคัดค้านหรือจะออกมาโต้แย้งแต่อย่างใด ส่วนถามว่าในมุมของวัดจะให้รับความเสียหายหรือไม่ ในส่วนนี้ตนเองอยากให้มองถึงเรื่องของบุคคลอยากได้เหมารวมหรือมีการตีตราถึงวัด” ผู้ใหญ่บ้านกล่าว






