ทลายแหล่งผลิตสี่คูณร้อย

ตำรวจบุกทลายแหล่งขายน้ำกระท่อมผสมยาแก้ไอ ยึดของกลางจำนวนมาก

หลังจากตำวจชุดสืบสวนสืบทราบว่าที่ “ร้านยันท่อม” ซึ่งตั้งอยู่ใน 2 พื้นที่ บริเวณ ถนนเวียงละกอน  ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง และ  ถนนลำปาง-แทะ ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ลักลอบผลิตน้ำกระท่อมผสมยาแก้ไอสูตรสี่คูณร้อยขายให้กับเยาวชนและประชาชนทั่วไปในพื้นที่ 

ต่อมาช่วงเย็น วันที่ 21 ธันวาคม 2566 กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวภูธรจังหวัดลำปาง  ภายใต้อำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว, พ.ต.อ.คมสันต์ สอาดล้วน รอง ผบก.ลำปาง,พ.ต.อ.ไพโรจน์ ทองขาว ผกก. สืบสวนภูธรจังหวัดลำปาง นำโดย พ.ต.ท.พิรชัช ปากเพรียว รอง ผกก.สส.ภ.จว.ลำปาง ร่วมกันเจ้าตรวจสอบและจับกุม 2 คดี ผู้ต้องหา 4 คน  

โดยคดีแรกจับกุม 2 ผู้ต้องหา ตั้งข้อกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกัน ผลิต หรือขายซึ่งยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับใบอนุญาต , ผลิต นำเข้าหรือขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันผลิตมีไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายอาหารที่ห้ามผลิตหรือจำหน่าย น้ำกระท่อมบรรจุขวด โดยไม่ได้รับอนุญาต และ ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึ่งรู้ว่าเปเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากร” พร้อมยึดของกลาง ยาแก้ไอ จำนวน 107 ขวด พร้อมกับ น้ำต้มใบกระท่อมจำ

คดีที่ 2 ตั้งขอกล่าวหาว่ากระทผิดฐาน “ร่วมกัน ผลิต หรือขายซึ่งยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับใบอนุญาต , ผลิต นำเข้าหรือขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันผลิตมีไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายอาหารที่ห้ามผลิตหรือจำหน่าย น้ำกระท่อมบรรจุขวด โดยไม่ได้รับอนุญาต  และช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึ่งรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากร” พร้อมของกลาง ยาแก้ไอ จำนวน 21 ขวด น้ำต้มใบกระท่อมจำนวน 210 ขวด

โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียน ว่า มีการเปิดร้านขายน้ำกระท่อมผสมยาแก้ไอ หรือสูตรสี่คูณร้อย ที่ระบาดทางภาคใต้ ให้กับประชาชนทั่วไปรวมไปถึงเยาวชนในเขตพื้นที่หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการสืบสวนสืบเสาะหาข้อมูลต่างๆจนมาทราบว่าร้านดังกล่าวนั้นมีการลักลอบขาย น้ำกระท่อมผสมยาแก้ไอจริง ซึ่งมีการผสมสูตรที่ลูกค้าเลือกรสชาติได้ด้วย จึงได้ทำการวางแผนเข้าทำการตรวจสอบจับกุมและยึดของกลาง ได้เป็นจำนวนมากดังกล่าว ก่อนจะนำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.