หนุ่มหื่นเสพยาบ้า โด๊ปไวอากร้า ก่อเหตุฉุดนักเรียนหญิงมัธยมศึกษา ขึ้นรถเก๋งพาหนี โชคดีตำรวจแกะรอย GPS ตามรวบทันควัน อ้างว่าเหงาอยากมีคนให้กำลังใจ ได้หวังข่มขืน แต่ถ้ายินยอมก็เอา
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 27 รับวาคม 2567 พ.ต.ท.สกฤชญ สุขนิตย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองชุมพร รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ว่ามี น.ส.เอ นามสมมุติ นักเรียนมัธยมศึกษาปี 4 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งกลางเมืองชุมพร ได้เข้ามาแจ้งเหตุว่า น.ส.บี อายุ 16 ปี เพื่อนสาว ถูกชายไม่ทราบชื่อฉุดกระฉากขึ้นไปในรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าโอเชี่ยนชุมพร บริเวณฝั่งโรงภาพยนต์เมเจอร์ ตำบลท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร โดยเพื่อนสาวที่ถูกฉุดตัวไปได้ส่งโลเกชั่น GPS เข้ามาที่โทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ติดตาม และล่าสุดพบสัญญาณเคลื่อนตัวไปทางชายทะเลอ่าวพนังตัก ตำบลนาชะอัง อ.เมืองชุมพร จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.ปิยพล ฉัตรภูมิ สว.สืบสวน.สภ.เมืองชุมพร พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร เร่งออกติดตามสกัดจับกุม
ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ขับรถไปถึงบริเวณสามแยกไฟแดงหน้าศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร สังเกตเห็นรถยนต์เก๋งต้องสงสัยคล้ายกับรถที่ใช้ก่อเหตุ จอดติดไปแดงฝั่งตรงข้าม เจ้าหน้าที่จึงจอดรถก่อนวิ่งเข้าไปที่รถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ซึ่งติดป้ายทะเบียนหมายเลข กต 1754 ชุมพร พบภายในรถมีชายสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำแขนยาว เป็นคนขับ ส่วนเบาะนั่งด้านซ้ายพบเด็กนักเรียน สวมชุดกีฬา อยู่ในอาการตื่นตกใจ ตัวสั่น และเปิดประตูวิ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวชายคนขับ และทราบชื่อภายหลังคือนายประสิทธิ์ ชิตกรหาร อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/1 หมู่ 7 ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร มีอาการเหมือนสะลึมสะลือตาลอย ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจสืบสวน สภ.เมืองชุมพร
จากการสอบสวน ในเบื้องต้น นายประสิทธิ์ ให้การให้การวกวนพูดเหมือนคนลิ้นจุกปาก ว่าตนเองเห็น น.ส.บี นักเรียนคนดังกล่าว ตั้งแต่แม่ของน้อง ขับรถ จยย. มาส่งที่หน้าโรงภาพยนต์ และรอจนแม่ของน้องได้ขับรถออกไป จึงได้ขับรถยนต์เข้าไปจอดเทียบก่อนจะทำทีเอากระดาษเอกสารให้น้องช่วยอ่าน เพราะตนเองอ้างว่าอ่านไม่ออก เมื่อ น.ส.บี อ่านให้แล้วตนเอง ก็ชวนน้องไปนั่งรถเล่น โดยไม่ได้ฉุดเพียงแต่จูงมือและผลักให้ขึ้นที่เบาะ ก่อนจะขับรถยนต์ออกไป โดยมุ่งหน้าไปที่ชายทะเลหน้าอ่าวพนังตัก เพราะบริเวณตรงนั้นเงียบไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน
นายประสิทธิ์ ให้การอ้างว่าการที่ตนเองทำแบบนี้ ก็เพราะตนเองเหงาอยากมีคนให้กำลังใจ และต้องการความอุ่นใจ โดยไม่ได้คิดอะไรมาก ต้องการพามานั่งรถเล่นเท่านั้น และอยู่บนรถก็ได้จับตัวน้อง และหอมแก้มเท่านั้น ไม่ได้คิดจะข่มขืนหรือลวนลามแต่อย่างใด แต่ถ้ายินยอมก็เอา ซึ่งพอน้องขัดขืนตนเองก็ขับรถออกมาจากตรงนั้น เพื่อจะพาน้องไปที่ห้องพัก แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน และตนเองยอมรับว่าก่อนนี้ได้เสพยาบ้ามาด้วย
เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกายพบว่าเป็นสีม่วง จึงได้นำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพัก พบถุงพลาสติกสีฟ้าภายในมีเศษยาบ้าติดอยู่ก้นถุง วางอยู่กับอุปกรณ์การเสพยาบ้า นอกจากนี้ยังพบแผงยาระบุชื่อ “ไวอากร้า”ถูกนำไปกินแล้ว 2 เม็ด ยังเหลือติดแผง 2 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงไว้เป็นหลักฐานก่อนทำการบันทึกจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “มีสารเสพติดในร่างกายและเสพยาเสพติดขณะขับรถ”
ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร พร้อมด้วยสหวิชาชีพ ได้ทำการสอบสวน น.ส.บี ผู้เสียหาย ก่อนแจ้งข้อกล่าวหากับนายประสิทธิ์ ความผิดฐาน “พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจ และกักขังหน่วงเหนี่ยว” ส่งดำเนินตามกฎหมายต่อไป.


