กองทัพบกสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.ชุมพร หลังปล่อยกลุ่มบุคคลลักลอบเปิดด่านเถื่อนเข้าออกนับ10 จุด ทำผิดกฎหมายเป็นภัยความมั่นคงของประเทศ
วันที่ 29 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีคณะทำงานแก้ไขปัญหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดชุมพรและจังหวัดระนอง โดยสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 บูรณาการกำลังเข้าตรวจสอบในทางลับ หลังมีเจ้าหน้าที่ของรัฐและกลุ่มบุคคล ร่วมกันกระทำผิดกฎหมายลักลอบเข้าออกนอกราชอาณาจักร ตามแนวชายแดนไทยและเมียนมา ด้านตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร และชายแดนด้าน อ.กระบุรี จ.ระนอง
โดยกลุ่มอิทธิพลดังกล่าวได้ร่วมกันนำเครื่องจักร รถแบ็คโฮ เข้าไปบุกรุกปรับไถยึดครองที่ดินจับจองหลอกขายแก่คนไทยด้วยกันในราคาไร่ละ 50,000 – 100,000 บาท จำนวนนับพันไร่ จัดตั้งกองกำลังคนไทย ตั้งหม่บ้านคนไทยนอกราชอาณาจักร ร่วมกับกองกำลังชนกลุ่มน้อย กระทำผิดกฎหมาย ลักลอบนำพืชผลทางการเกษตรเข้ามาขายในประเทศไทย ลักลอบค้าแรงงานเถื่อน ค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา จากแคมป์พักฝั่งเมียนมาผ่านเข้ามาในประเทศไทย ส่งไปยังประเทศที่สามทางชายแดนภาคใต้
โดยคณะทำงานแก้ไขปัญหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร บริเวณพื้นที่ชายแดนจังหวัดชุมพรและระนอง ได้แสวงหาข้อมูลหลักฐานทั้งเส้นทางการเงิน บักทึกการสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง คลิปภาพวิดีโอ คลิปเสียงการสนทนา การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้กระทำความผิด พบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐและกลุ่มบุคคลที่เป็นแกนนำหลักมากกว่า 10 ราย ร่วมกันทำเป็นเครือข่ายขบวนการใหญ่ และได้มีการสรุปสำนวนผลการสืบสวนสอบสวนเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อ ป.ป.ช.และปปป.กองบัญญชาการตำรวจสอบสวนกลางแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด มีรายงานว่าหลังจากทางคณะทำงานแก้ไขปัญหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงพื้นที่แสวงหาข้อมูลหลักฐาน พบว่าตามแนวชายแดนไทย-เมียมา มีการลักลอบนำเครื่องจักรเข้าไปเปิดทางเข้าออกระหว่าง 2 ประเทศ ใช้เป็นด่านลับมากกว่า 10 จุด และใช้เป็นจุดเข้าออกประจำอย่างเสรีจำนวน 5 จุด เพื่อใช้กระทำผิดกฎหมายดังกล่าว โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ของทางการไทยเข้าดูแลและตรวจสอบแต่อย่างใด
หลังจากนั้น พล.ท.อนุสรณ์ โออุไร แม่ทัพน้อยที่ 4/รอง ผอ.รมน.ภาค4 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและพบว่ามีการก่อสร้างถนนหลายจุดเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านจริง จึงได้สั่งการให้การปิดกั้นแนวตะแขบชายแดน ในพื้นที่บ้านช่องหินหมู ช่องบ้านสองหลัง ช่องหนองผักบุ้ง ช่องหินควน และช่องตามิ้น แนวชายแดนอำเภอท่าแซะ พร้อมทั้งได้มีการนำเครื่องจักรไปขุดทำลายถนน ติดตั้งลวดหนามและแท่งคอนกรีต เพื่อป้องกันไม่ใช้ใช้ยานพาหนะสัญจร และกำชับให้หน่วยทหารในพื้นที่ตั้งจุดตรวจุดสกัดรวมถึงลาดตระเวณเส้นทางเพื่อป้องกันการลักลอบขนพืชผลอาสินทางการเกษตรเข้ามายังประเทศไทย
ขณะเดียวกัน ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ ผอ.ส่วนสอบสวน 4 สำนักสอบสวน 4 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ส่งรายงานผลการสืบสวนสอบสวน กรณีกลุ่มราษฎรไทยรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้าน และการลักลอบขนคนเข้ามือง การลักลอบขนส่งอาวุธสงคราม การลักลอบขนสินค้าการเกษตรเข้ามาราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร โดยมีกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ ให้การคุ้มกันและมีเจ้าหน้าที่ของรัฐให้การสนับสนุนการกระทำความผิดดังกล่าว บริเวณพื้นที่ชายแดนจังหวัดชุมพร
โดยได้สรุปผลการสืบสวนสอบสวนร่วมกับคณะทำงานแก้ไขปัญหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กอ.รมน.ภาค 4 ตามข้อร้องเรียนกรณีดังกล่าวรายงานส่งให้กับ ผู้บัญชาการทหารบก ได้รับทราบถึงปัญหาอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ
ล่าสุด พล อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. มีหนังสือถึง พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผอ.กอ.รมน.ภ.4 ให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทหารที่ตั้งฐานปฎิบัติการป้องกันชายแดนไทย ด้านตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พร้อมกับให้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กองทัพบกทราบโดยด่วน.





