สลดนักศึกษาเทคนิคชุมพร เลิกเรียนขับจยย.กลับถึงทางโค้งลงเนินเกิดเกี่ยวกันเองจนเสียหลักล้มเพื่อนโชคร้ายร่างกลึ้งไถลข้ามเลนถูกรถดัมพ์ที่วิ่งสวนทางมาเบรคไม่อยู่ทับดับอนาถ
สตอรี่ทราเวลกรุ๊ป (กดอ่านรายละเอียด)
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 12 ก.ย.62 พ.ต.ท.สานิช หนูคง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์กับรถสิบล้อมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตบนถนนชุมพร-สะพลี หมู่ 3 ตำบลนาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพร
ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางโค้งอันตรายและเป็นช่วงลงเนินขึ้นเนินสูงลักษณะคล้ายแอ่งกระทะ เป็นถนนทางไปสนามบินชุมพร ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างลาดยางขยายช่องทาง มีชาวบ้านและนักศึกษามุงดูอยู่จำนวนมาก พบผู้เสียชีวิตสภาพกะโหลกแตก หน้ายุบ มันสมองกระจายเกลื่อน กระดูกขาแขนและลำตัวหักหลายจุด เลือดไหลนองเต็มพื้น สภาพศพอยู่ในชุดนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคชุมพร สวมทับด้วยคลุมแขนยาวสีเทา ทราบชื่อคือ นายภาสพล พวงบุษผา อายุ 17 ปี บ้านอยูตำบลปากตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เป็นนักศึกษาเรียนอยู่แผนกช่างยนต์ ปวช.2 วิทยาลัยเทคนิคชุมพร มีผู้บาดเจ็บ 1 คน มี เป็นนักศึกษา อายุ 17 ปี เรียนอยู่ห้องเดียวกัน แผลถลอกตามตัวหลายจุด หน่วยกู้ชีพสายชลนำส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
ตรวจสอบที่เกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้า MSX สีชมพู ทะเบียน 1 กช.7746 ชุมพร ซึ่งเป็นรถของผู้ตาย และรถจักยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน กษษ.731 ชุมพร เป็นรถของผู้บาดเจ็บล้มอยู่บนถนน ส่วนรถยนต์คู่กรณีเป็นรถดัมพ์ 10 ล้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 82-6739 ราชบุรี จอดอยู่ในเลนช่องทางขาขึ้น โดยมีรอยเบรกจากจุดเกิดเหตุจนยางล้อไหม้ดำติดอยู่บนถนนเป็นระยะทางประมาณ 30 เมตร ส่วนคนขับยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ที่เกิดเหตุทราบชื่อคือ นายสมยศ สูหา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 15 ตำบลหนองปลาหมอ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
จากการสอบสวนนายสมยศคนขับรถดัมพ์ทราบว่าได้ขับรถดัมพ์ให้กับบริษัทรับเหมาทำถนนสายดังกล่าว ขณะขับมาบนถนนช่องทางขาขึ้น ซึ่งเป็นจังหวะที่รถวิ่งลงเนินและกำลังพุ่งตัวขึ้นเนิน ได้มีกลุ่มนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคชุมพรมากกว่า 10 คน หลังเลิกเรียนแล้วได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากวิทยาลัยฯ ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองชุมพร โดยขับมาบนเลนช่องทางขาล่อง เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางลงเนินรถจักรยานยนต์ที่นักศึกษาขีบมาได้เกิดเกี่ยวกันเองจนล้ม ทำให้ร่างของนายภาสพลกลิ้งไถลเข้าไปยังเลนช่องทางฝั่งขาขึ้นที่นายสมยศกำลังขับรถดัมพ์มาพอดี และได้พยายามเบรกรถแล้วแต่เอาไม่อยู่เนื่องจากขับมาด้วยความเร็วจนทับร่างนายภาสพลนักศึกษาเสียชีวิตดังกล่าว
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมหลักฐานที่เกิดเหตุและได้บันทึกภาพรอยเบรคบนถนนของรถดัมพ์ที่เบรคเป็นรอยไหม้ดำมีระยะทางไกลกว่า 30 เมตรไว้เป็นหลักฐานด้วย เพื่อพิสูจน์ว่าผู้ขับขี่รถดัมพ์คันดังกล่าวขับขี่รถมาด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และจะเรียกพยานผู้เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.
